วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ต้องสู้จึงชนะ

คนใจสู้ จะมองเห็นหนทางแก้ปัญหา ปัญหาทุกอย่างล้วนมีทางแก้ไข ชีวิตจะขาดรสชาติ ถ้าไม่มีอุปสรรคให้เราได้ลิ้มรส และได้สัมผัสมัน อุปสรรคและปัญหาทำให้คนเราได้รู้จักการต่อสู้ เมื่อใด

ขึ้นฉ่าย





                                http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK13/pictures/s13-222-4.jpg


ลักษณะขึ้นฉ่ายเป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว ทุกส่วนของต้นมีกลิ่นหอม ลำต้นอวบเป็นเหลี่ยม ด้านในกลวงสูง
30-50 เซนติเมตร ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 2-3 คู่ใบย่อยรูปไข่กว้าง โคนสอบเข้าหาก้านใบ ขอบใบจักึกเป็นแฉกไม่เท่ากัน ดอกเป็นช่อขนาดใหญ่คล้ายซี่ร่ม ดอกย่อยขาดเล็กสีขาวเป็นดอกสมบูรณ์เพศ
ผลแห้งแก่แล้วแตก รูปกลมรี ขนาดเล็ก สีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม
การใช้ประโยชน์
ใช้เป็นผักสด รับประทานส่วนใบและก้านนำไปเป็นผักชูรสอาหารอีกหลายประเภทและเป็นผักสมุนไพรในทางยาเช่น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้ และโรคหัวใจขาดเลือดได้เช่นกัน

ที่มาจากหนังสือเรื่องผักสมุนไพร ผู้แต่ง ปิยะ  เฉลิมกลิ่น

ขมิ้นชัน


http://www.industry.in.th/uploadedimages/knowledge/images/km39562_20120620173833_298967078_fullsize.jpg


                                                             ขมิ้นชัน
ลักษณะของขมิ้นชัน คือ เป็นพืชล้มลก มีอายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินที่เรียกว่าเหง้า ประกอบด้วยแง่งหลักที่เรียกกว่า หัว แต่ถ้ามีลักษณะยาวคล้ายนิ้วมือเรียกว่า นิ้ว มีกลิ่นหอมใบเดียวออกสลับกันแตกขึ้นมาเหง้า  ออกดอกเป็นช่อรูปทรงกระบอก โดยแทงออกมาจากเหง้าบริเวณใจกลางกลุ่มใบ ดอกย่อยของขมิ้นชันสีเหลืองอ่อน
การใช้ประโยชน์
ขมิ้นเหลืองหรือขนิ้นชัน ใช้แต่งกลิ่น สี และรสอาหาร และสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้น้ำต้มขมิ้น
ใช้รักษาอาการนิ่วในถุงน้ำดีรวมทั้งโรคกระเพราะอาหาร เป็นต้น


ที่มาจากหนังสือเรื่องผักสมุนไพร ผู้แต่ง ปิยะ  เฉลิมกลิ่น

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันวิทยาศาสตร์






      http://kruvoravut.files.wordpress.com/2012/08/478.jpg?w=440&h=320
     
 วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 ถือเป็นวันสำคัญยิ่งในวงการศึกษา วงการดาราศาสตร์ และวงการวิทยาศาสตร์ของไทย เพราะเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค และสถลมารค เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ ต.หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
        พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถปรับปรุงสยามประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ ทรงรับเอาศิลปวิทยาการและความคิดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ด้วยเหตุนี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์
        เนื่องด้วยพระองค์ทรงสนพระทัยวิชาคณิตศาสตร์และวิชาดาราศาสตร์ในตำราโหราศาสตร์ของไทย ในที่สุดพระองค์ทรงค้นคิดวิธีการคำนวณปักข์ (ครึ่งเดือนทางจันทรคติ) โดยอาศัยหลักตำราสารัมภ์ของมอญ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ (วันพระ) ให้ถูกต้องตามการโคจรของดวงจันทร์ที่เรียกว่า ปฏิทินปักขคณนา ยิ่งกว่านั้น พระองค์ได้ทรงคิดสูตรสำเร็จในการคำนวณปักข์ออกมาในรูปกระดานไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเครื่องหมายเรียงเป็นแถว 10 แถว แต่ละแถวมีจำนวนต่างกัน และมีเครื่องหมายแทนดวงดาว 5 ดวง เดินเคลื่อนไหวเหนือแถวเหล่านั้นคล้ายกับเดินตัวหมากรุก ก็จะได้วันพระที่ถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ เรียกว่า กระดานปักขคณนา ปัจจุบันนี้คณะธรรมยุตยังคงใช้กันอยู่ สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสาเหตุที่จุดประกายให้พระองค์ทรงเริ่มสนพระทัยในวิชาดาราศาสตร์อย่างจริงจัง
        ในพระราชฐานของพระองค์ทั้งที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดจะมีหอดูดาว โดยเฉพาะ หอชัชวาลเวียงไชย นี้มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์วิชาดาราศาสตร์ของไทย ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นสถานที่สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในการรักษาเวลามาตรฐานของประเทศไทยต่อไป ดังนั้นหอนี้จึงเป็นอนุสรณ์แห่งสัมฤทธิผลในทางวิทยาศาสตร์เรื่องระบบเวลา พระองค์ทรงสถาปนาระบบเวลามาตรฐานขึ้นในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2394 โดยสร้างพระที่นั่งภูวดลทัศไนยขึ้นในพระบรมราชวัง ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวงบอกเวลามาตรฐานของประเทศไทยสมัยนั้น โดยมีพนักงานตำแหน่งพันทิวาทิตย์ เทียบเวลาตอนกลางวันจากดวงอาทิตย์ และพันพินิตจันทรา เทียบเวลาตอนกลางคืนจากดวงจันทร์
        นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงคำนวณเหตุการณ์ล่วงหน้าถึง 2 ปีว่า วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 จะเกิดเหตุการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงในประเทศไทย ที่ที่จะเห็นเหตุการณ์สุริยุปราคาชัดเจนที่สุดก็คือ หมู่บ้านหัววาฬ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรเหตุการณ์สุริยุปราคาที่นั่น และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพยากรณ์ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว ทางสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์จึงคิดกันว่า น่าจะถือว่าวันนี้เป็นวันวิทยาศาสตร์ของไทย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2525 เพื่อเทอดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปีเป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ"  

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันแม่แห่งชาติ


http://www.tlcthai.com/motherday/wp-content/uploads/2011/08/mom1.jpg



ทุกคนเกิดมาต้องแม่ถ้าไม่มีแม่เราก็ไม่ได้เกิดมาพระคุณของยิ่งไหญ่มากจนเราไม่ทดแทนคุณได้หมดแต่เราก็สามารถทดแทนคุณท่านได้โดยทำตัวให้ท่านได้ภูมิใจเป็นคนดีต่อแม่เชื่อฟังในเวลาที่ท่านสอนเรา ที่ท่านสอนเรานั้นท่านอยากให้เราเป็นคนดี แม่ได้ดูแลเรามาตั้งแต่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆค่อยให้กินนมให้กินแต่อาหารดีๆสำหรับเราทุกอย่างและคอยดูแลเราไม่ให้เจ็บป่วยรักษาเราเป็นอย่างดี






วันเข้าพรรษา


     

                       https://wiki.stjohn.ac.th/groups/education_news/wiki/6602c/images/a28b2.jpg          

    วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น 
   "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า "ปุริมพรรษา" 
     ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ปัจฉิมพรรษา" เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด 
ที่มาจาก  http://hilight.kapook.com/view/13698/

วันอาสาฬหบูชา

   



                                 http://www.dhammajak.net/board/files/268_1185777848.jpg_829.jpg




    ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี จะตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกหนึ่งวัน นั่นคือ "วันอาสาฬหบูชา" ซึ่งในปี พ.ศ.2555 นี้ วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม และวันเข้าพรรษา ตรงกับวันที่ 3 สิงหาคม
    ทั้งนี้ คำว่า "อาสาฬหบูชา" สามารถอ่านได้ 2 แบบ คือ อา-สาน-หะ-บู-ชา หรือ อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา ซึ่งจะประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ อาสาฬห ที่แปลว่า เดือน 8 ทางจันทรคติ กับคำว่า บูชา ที่แปลว่า การบูชา เมื่อนำมารวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน 8 หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน
   วันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน   โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จน พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
 ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี
   ทั้งนี้ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เรียกว่า  "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร"แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งหลังจากปฐมเทศนา หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีที่เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" พระโกณฑัญญะจึงได้เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม และได้อุปสมบทตามลำดับ 

ที่มาจาก http://hilight.kapook.com/view/26024/





พรรณไม้ประจำวันจันทร์

  






  http://derossobby.com/wp-content/uploads/2012/08/original_Dok_kaew1.jpg


   คนเกิดวันจันทร์มีจุดเด่นที่เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นคนที่รักและหมายปองของคนทั่วไปหากเป็นชายก็เป็นคนที่ดูสุขุมนุ่มลึก ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นคนที่งามซึ้งเจ้าเสน่ห์ มีคนมาลุ่มหลงหวังมอบรักให้อยู่เสมอๆมีคู่รักมากหน้าหลายตา เป็นคนเจ้าชู้เงียบ แต่สุดท้ายก็มักจะไม่สมหวังในรัก หากจะมีปัญหาบ้างก็คงเป็นเพราะตัวเองที่คิดมากคิดไกลเกินไป
   เป็นคนสุภาพพูดจาไพเราะอ่อนหวานกิริยางดงามนุ่มนวลมนุษย์สัมพันธ์ดีมีน้ำใจดูอบอุ่นแต่หากโมโหแล้วมักโมโหร้ายแต่เป็นคนเจ้าสำราญชอบแต่งตัวหพบปะผู้คนค่อนข้างเป็นคนเจ้าน้ำตาคนอ่อนแอช่างเอ่าใจและก็ชอบให้ผู้อื่นเอาใจด้วยเช่นกัน
   คนเกิดวันจันทร์ควรลดความวิตกกังวล ลดความเป็นคนช่างคิดลงบ้างสักนิด ให้ระวังเรื่องของการคบคนและให้ระวังในเรื่องใช้จ่ายอย่าตามใจตัวเอง
   ไม้ประดับมงคลที่ถูกโฉลกสำหรับคนเกิดวันจันทร์ควรจะมีสีขาว ขาวครีม ไปจนถึงเหลืองเช่น ดอกกวนอิม ดอกโกสน ดอกแก้ว และดอกจำปี เป็นต้น

ทีมาจากหนังสือ พรรณไม้ประจำวันเกิด ผู้แต่ง วชิรพงศ์  หวลบุตตา

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พรรณไม้ประจำวันเกิดวันอาทิตย์

  



                                http://www.panmai.com/Tip/Tip06/champa.jpg

 คนเกิดวันอาทิตย์มักเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้า มีความทะเยอทะยานสูง เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีลักษณะเป็นผู้นำชอบช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าตนเอง เป็นคนรักเพื่อนฝูงมาก จริงใจประเภทถึงไหนถึงกัน เป็นคนอารมณ์ร้อนโกรธง่ายหายเร็ว สุภาพอ่อนโยนคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉงและกระตือรือร้นชอบพบปะผู้คนพูดจาดีมีหลักการชอบเดินทางท่องเที่ยวผจญภัย
   ความรักเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์กล้าได้กล้าเสียในเรื่องของความรักชอบสนุกเจ้า
สำราญและเจ้าชู้พอสมควรรักหลงคนง่ายและมักมีดวงในเรื่องของความรัก
   คนเกิดวันอาทิตย์ควรระวังเรื่องความใจร้อนหูเบาเชื่อคนง่ายและเรื่องหน้าใหญ่ใจโตชึ่งอาจจะสร้างศัตรูโดไม่รู้ตัวแต่ให้ระวังเรื่องการใช้สอยเพราะเป็นคนใจกว้าง
   ไม้ประดับมงคลของคนที่เกิดวันอาทิตย์จะเป็นพรรณไม้จำปา กุหลาบ โกสนชบา เป็นต้น

ที่มาจากหนังสือ พรรณไม้ประจำวันเกิด ผู้แต่ง วชิรพงศ์  หวลบุตตา

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รัก...ไม่ใช่เรื่องต้องรีบร้อน






                     http://blog.eduzones.com/images/blog/entertain/20110713142151.jpg

จะมีประโยชน์อะไร...
หากคนสองคนยืยยันหนักแน่นว่ารักกัน
แต่ว่าหัวใจ...ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะรักกัน
มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ ?
ความรัก..แม้จะเป็นสิ่งที่ไร้รูปร่าง ไร้ตัวตนแต่มันก็มีช่วงเวลาหรือระยะเวลาของมัน
ที่จะก่อขึ้นอย่างชัดเจนและแน่นอนนั้นไม่อาจจะเกิดได้ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ
เพียงแค่คบกันไม่กี่วัน เจอกันไม่กี่หนหรือได้ทำอะไรร่วมกันไม่กี่อย่างแม้ต่างคนจะรู้สึกดีต่อกันมากแค่ไหนนั้นก็เรียกไม่ได้ว่าเป็น..ความรัก จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาของมันจริงๆนั้นแหละการกระทำของคนสองคนจึงบ่งบอกออกมาเองว่าวันนี้นาทีนี้เรารักกันแล้วและรักกันจากใจจริงด้วย
แต่แล้วทำไมเราจึงจะต้องทำให้คำว่า รัก จากปากของเราและเขากลายเป็นคำโกหกหรือเป็นคำที่มักง่ายด้วยในเมื่อก็ไม่ได้มีไครบีบบังคับและเร่งรัดว่าถ้าเราไม่ตกลงกันหรือสรุปให้แน่ว่าเรารักกันภายในวันนี้ความสัมพันธ์ของเราต้องจบลงทันที ไปต่อไม่ได้
(ลองถ้ามีความรักมันจริงในใจของคนสองคนล่ะก็ยังไงมันก็ไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอื่นได้แน่และเช่นกันหากว่าในใจมันไม่ใช่ไม่ว่าว่าจะโกหกกันอย่างไร ก็รู้กันอยู่ดี)